ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

การติดตั้งและการตั้งค่า Apache Virtual Hosts ใน Ubuntu

นอกจากนี้คุณจะต้องมีการติดตั้งโปรแกรม Apache เพื่อที่จะทำงานผ่านขั้นตอนต่างๆเหล่านี้ หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง ก็ให้คุณใช้คำสั่งนี้ในการติดตั้ง: sudo apt-get update sudo apt-get install apache2 หลังจากขั้นตอนเหล่านี้จะเสร็จสมบูรณ์เราสามารถเริ่มต้นได้ สำหรับวัตถุประสงค์ของคู่มือนี้, การตั้งค่าของฉันจะทำโฮสต์เสมือน example.com และ test.com จะถูกอ้างอิงคู่มือตลอด แต่คุณควรใช้โดเมนของคุณเองในขณะที่ตั้งค่าไปพร้อมกัน เราจะแสดงวิธีการแก้ไขโฮสต์ท้องถิ่นของคุณยื่นภายหลังการทดสอบการตั้งค่าหากคุณใช้ค่าหุ่น นี้จะช่วยให้คุณสามารถทดสอบการตั้งค่าของคุณจากคอมพิวเตอร์ที่บ้านของคุณแม้ว่าเนื้อหา ของคุณจะไม่สามารถใช้ได้ผ่านชื่อโดเมนที่จะเข้าชมอื่น ๆ ขั้นตอนที่ 1 — Create the Directory Structure ขั้นตอนแรกที่เราจะไปใช้เวลาที่จะทำให้โครงสร้างไดเรกทอรีที่จะเก็บข้อมูลเว็บไซต์ที่เราจะให้บริการกับผู้เข้าชม document root ของเรา (ไดเรกทอรีระดับบนสุดที่ Apache มีลักษณะที่จะหาเนื้อหาที่จะให้บริการ) จะถูกกำหนดให้แต่ละภายใต้ไดเรกทอรี / var / www ไดเรกทอรี เราจะสร้างไดเรกทอรีที่นี่สำหรับทั้งสองของโฮสต์
โพสต์ล่าสุด

json_encode การส่งค่าตัวแปรที่เป็นชนิด อาเรย์จาก PHP ส่งให้กับ Javascript

หลายคนคงเคยมีปัญหากับการส่งค่าตัวแปร อาเรย์จาก PHP ให้กับ Javascript  ซึ่งตอนนี้ PHP มีฟังก์ชั่นที่ช่วยในการทำงานแปลงข้อมูล คือการ encode ข้อมูล โดยใช้ฟังก์ชัน json_encode ของ PHP ซึ่งเป็นอีกฟังก์ชันหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะว่า ฟังก์ชันนี้จะทำหน้าที่แปลงค่าที่เราส่งให้ argument ให้ออกมาเป็น json ซึ่งสามารถนำเอาไปใช้เพื่อคืนค่าให้กับ AJAX แทนที่จะเป็น XML หรือ Text  จะช่วยให้เราใช้ javascript จัดการกับ Response ได้ง่ายยิ่งขึ้น แค่นี้ก็จะช่วยแก้ปัญหา การส่งค่าตัวแปรอาเรย์ไปยัง Javascript ได้เรียบร้อย รูปแบบการใช้งานก็ตามนี้ รูปแบบ string json_encode ( mixed $value [,int $options = 0] ) ตัวอย่าง <?php $arr=array('a'=>1,'b'=>2,'c'=>3,'d'=>4,'e'=>5); echo json_encode($arr); ?> ผลลัพท์ที่ได้ {"a":1,"b":2,"c":3,"d":4,"e":5} credit:http://www.imooh.com/

THE BASIC OF HTML

tag     ป้ายบอกส่วนต่างๆในเอกสาร HTML ว่าส่วนไหนชื่ออะไร มีหน้าที่อะไร ชื่อของ tag จะอยู่ภายใน เครื่องหมายน้อยกว่าและมากกว่า โดยปกติ tag จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ tag เปิด <....>  และ tag ปิด </....> TAG พื้นฐานที่จะต้องรู้จัก <!DOCTYPE html>  ประกาศชนิดของเอกสาร <html>      ภาษา html จะทำงานอยู่ภายใน tag html </html> <head>  ....  </head> พื้นที่ในการกำหนดค่าต่าง เช่น ค่าของตัวอักษร รูปแบบเอกสาร(CSS) การประกาศโปรแกรม(Java และอื่นๆ) การ link แฟ้มจากภายนอกเข้ามาทำงานภายใน เป็นต้น และพวก tag <meta> ก็จะทำงานอยู่ที่นี่ด้วย <body> ....  </body> พื้นที่ของคำสั่ง html ที่จะแสดงผล รูปแบบการจัดเรียง <!DOCTYPE html> <html>      <head>           .......      </head>      <body>           ........      </body> </html>

HTML and CSS EDITER ใช้อะไรดีเขียน HTML

สำหรับผมแล้วไม่เจาะจงโปรแกรมที่ใช้เขียนครับ โปรแกรมตัวไหนในเวลานั้นๆมันมีให้ใช้งานอยู่ผมก็ใช้ตัวนั้นครับ แต่ถ้าจะให้แนะนำละก็ผมก็จะแนะนำโปรแกรมฟรีครับ สำหรับคนที่ใช้ Windows และ Linux 1. Notepad++  ใช้งานง่ายและเขียนได้หลายภาษาใช้งานง่ายๆครับเมื่อก่อนตอนใช้ Windows อยู่ผมก็ใช้ตัวนี้ละ ใช้ติดต่อกับHost ที่เก็บWebเราได้ด้วยครับ แก้ไขแล้วSaveไปที่ Host ได้เลยครับ ตอนนี้ออก Version ใหม่มาแล้วครับ   Notepad++ 6.7.9.2  (เข้าไป Download ได้เลยครับ) 2.Bluefish เป็นอีกตัวที่ผมใช้งานอยู่เป็นประจำครับ มีเมนูให้เราเลือก TAG ได้ (ใน Linux ผมก็ใช้ตัวนี้อยู่ครับ) ส่วน Version ใหม่ล่าสุดตอนนี้คือ  Bluefish 2.2.7. (เข้าไป Download ได้เลยครับ) การติดตั้งใน Linux ครับ:  http://bfwiki.tellefsen.net/index.php/Installing_Bluefish ส่วนใน Windows ให้ไปDownloadได้ใน  http://www.bennewitz.com/bluefish/stable/binaries/win32/ 3.Google Web Designer Download ได้ตามนี้ครับ ทำ Web Animasion ได้ดีมากๆครับ มีทั้ง Windows และ Linux https://www.google.com/webdesigner/ ส่วนตัวอื่นๆผมยังไม่แนะนำครับ สำหรับพ

CSS code for side menu

CSS code  <style type="text/css"> .menu{ margin:0;  padding:0;  width:165px;  list-style:none; background:rgb(255,255,255); } .menu li{ padding:0;  margin:0 0 1px 0;  height:40px;  display:block;  } .menu li a{ text-align:undefined; height:40px;  padding:0px 25px;  font:14px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif;  color:rgb(255,255,255);  display:block;  background:url('verMenuImages.jpg') 0px 0px no-repeat;  text-decoration:none; } .menu li a:hover{ background:url('verMenuImages.jpg') 0px -40px no-repeat;  color:rgb(255,255,255); } .menu li a.active, .menu li a.active:hover{ background:url('verMenuImages.jpg') 0px -80px no-repeat;  color:rgb(255,255,255); } .menu li a span{ line-height:40px; } </style> HTML code  <ul class="menu">  <li><a href="#" class="active"><span>Main</

WEB PAGE LAYOUT

     คือการกำหนดส่วนต่างๆของหน้าเว็บ เช่น ส่วนหัว เมนู ส่วนเนื้อหา หรือส่วนท้าย เป็นต้น ซึ่งเราจะต้องออกแบบก่อนเป็นอันดับต้นๆ ส่วนประกอบต่างให้ดูใน  http://chumpen-web-programming.blogspot.com/2014/08/header-navigator-contents-footer.html ได้เลยครับ แต่หน้านี้ผมจะพูดถึงการออกแบบ Layout เป็นหลักครับ      สิ่งที่ผมนำมาใช้ในการออกแบบ layout ก็คือโปรแกรมแต่งภาพ เพราะเราจะต้องรู้และเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของขนาดหน้าเว็บ หน้าจอ และส่วนต่างๆ ใน layout ส่วนตัวโปรแกรมที่ผมใช้และแนะนำให้ใช้ก็คือ inkscape เพราะเป็นโปรแกรมฟรี download มาใช้ได้เลย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ส่วนขั้นตอนการติดตั้ง ตาม วิดีโอครับ (แต่บอกกันไว้ก่อน การใช้งาน Inkscape นั้นสุดง่ายครับ ถ้าใครคิดว่าเป็นมือโปรทาง Graphic ละก็อย่าใช้ครับ 5555) Download Inkscape คลิกที่นี่ การติดตั้ง Inkscape บน Windows7 บน Linux บน Mac การออกแบบ Layout ใน Inkscape      เริ่มโดยการ เขียนบนกระดาษก่อน ร่างแบบจัดว่างส่วนต่างตามแต่ใจเราครับ ว่าจะเอาอะไรวางไว้ที่ไหน จากนั้นเปิด inkscape ขึ้นมาครับ ทำตาม video เลยครับ

เราต้องเตรียมอะไรบ้างก่อนเริ่มสร้าง

กำหนดจุดหมาย และจุดประสงค์       เช่น เราจะสร้างบ้าน เราจะต้องรู้ก่อนว่าเราจะสร้างเพื่ออะไร เช่น สร้างเพื่อเราเข้าอยู่เอง หรือสร้างให้คนอื่นอยู่ หรือสร้างไว้เพื่อเป็นบ้านรับรองแขก หรือให้คนงาน หรือให้เช่า หรือ ฯลฯ ถ้าเรารู้ว่าจะทำเพื่ออะไรเราก็สามารถที่จะจำกัดขนาดของข้อมูลลงได้ และมีเป่าหมายที่แน่นอนในการที่จะพัฒนาต่อไป วางแผน และแบบแปลน สำหรับการสร้าง       การที่เราวางแผนบนกระดาษก่อนถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่สุด ก่อนที่จะลงมือทำ การสร้างเว็ป ก็เช่นเดียวกัน ถ้าเราวางแผนหรือออกแบบไว้ก่อนย่อมทำใด้เราประสปความสำเร็จไปแล้วมากกว่า 40% เช่น ถ้าคิดจะสร้างเว็ปเพื่อแสดงผลงานของตนเอง เราก็จะต้องสร้างแบบหน้าแรก ว่าจะให้มีรูปแบบอย่างไร และจะต้องมีหน้าเว็ปกี่หน้า แต่ละหน้าจะใช้แสดงอะไรบ้าง และจะออกแบบอย่างไรให้หน้าเว็ปของเรามีคนเข้ามาดูแล้วอยากจะเก็บไว้ใน Bookmark ของตนเอง และมันจะเป็นเรื่องง่ายถ้าเราจะแก้ไขหรือปรับปรุงเว็ปของเราในภายหลัง ตั่งชื่อ       การตั้งชื่อก็มีส่วนสำคัญ เราจะต้องคิดตั่งชื่อก่อน เพราะการตั้งชื่อเพื่อให้คนจดจำกันได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เน้นที่ สั้น มีความหมา